2 ประเด็นที่ต้องรู้ Online Seller บน e-Platform

หากคุณเป็น Online Seller 

และขายสินค้าบน e-Platformมีประเด็นสำคัญที่คุณควรจะต้องหาความรู้ 

เพื่อการจัดเตรียมงานที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ และเริ่มลงมือทำโดยทันที ดีที่สุดคือ ตั้งแต่ต้นปี 2567 ไม่ควรปล่อยเวลาให้เนิ่นนานออกไปเพราะในบางเรื่อง สิ่งที่ผ่านไปแล้วไม่อาจไปแก้ไขย้อนหลังได้!!! 


ประเด็นที่คุณควรรู้ มี 2 ประเด็น ดังนี้

ประเด็นแรก

คุณต้องรู้ว่า รายได้ของคุณตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไป จะไม่เป็นความลับอีกต่อไป ด้วยสรรพากรมีระบบที่มีประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาษีเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 


ถ้าคุณจำได้ย้อนไปเดือนมกราคม ปี 2562 เริ่มมีภาษี e-Payment กำหนดเงื่อนไขธุรกรรมเฉพาะ 

กรณีการรับโอนเงิน 3,000 ครั้งต่อปีต่อสถาบันการเงิน

หรือ 400 ครั้งและ2 ล้านบาทต่อปี 


ให้สถาบันการเงินต้องรายงานข้อมูลผู้มีบัญชีเงินฝากให้กรมสรรพากรใช้ติดตามจัดเก็บภาษี ที่ยังส่งผลอยู่ถึงทุกวันนี้


มาถึงปี 2567 ภาษี e-Platform 

กรมสรรพากรมีกฎหมายใช้บังคับ กำหนดให้ผู้ประกอบการอิเล็กทรอนิกส์แพลตฟอร์มจัดทำบัญชีพิเศษ และมีหน้าที่ต้องรายงานรายได้และบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้อง ของ Online seller ทุกรายบน e-Platformต่อกรมสรรพากร ปีละ 1 ครั้ง ทุกปี 


สรุปก็คือขณะที่คุณกำลังวุ่นวายอยู่กับการขาย

กรมสรรพากรก็มีระบบที่รับรู้รายได้ของคุณทุกวันทุกเดือน

ตั้งแต่เดือนมกราคม 2567 และเมื่อสิ้นปีระบบก็มียอดรวมรายได้ของคุณแล้ว!!! 


คุณอาจเข้าใจว่า Online Seller ในประเทศไทย มีจำนวนมาก เราคงไม่โดนสรรพากรตรวจละมั้ง ?  


จริงอยู่กว่าจะถูกตรวจเวลาอาจผ่านไปนานเป็นปี หรือหลายปี เนื่องด้วยข้อจำกัดของกำลังเจ้าหน้าที่ แต่คุณรู้ไหมทางสรรพากรเขารอได้ เนื่องจากกฎหมายให้ตรวจสอบย้อนหลังได้ถึง 10 ปี ในกรณีที่คุณไม่ได้ยื่นแบบเสียภาษี  

หรือกรณีที่คุณยื่นแบบไว้แล้ว แต่สรรพากรตรวจพบภายหลังว่าแบบที่ยื่นไว้ มีข้อผิดพลาดเสียภาษีไม่ถูกต้อง การตรวจสอบจะย้อนหลังได้ 5 ปี


ยิ่งสรรพากรตรวจช้ายิ่งไม่เป็นผลดีต่อคุณเอง เพราะนอกจากภาษีที่ต้องจ่ายย้อนหลังแล้ว ยังมีทั้งค่าปรับทางอาญา และเบี้ยปรับ 2 เท่า หรือ 1 เท่าของเงินภาษีที่ต้องจ่าย อีกยังมีเงินเพิ่ม [หรือดอกเบี้ย] อีกร้อย ละ 1.5 ต่อเดือนของเงินภาษี  


ถ้าอ่านเข้าใจลองคำนวณดู 

คุณก็จะรู้ว่าถ้าถูกตรวจช้าไม่เป็นผลดีจริง ๆ 


ยกตัวอย่าง 

ถ้าคุณยื่นแบบเสียภาษีภายในเวลาที่กำหนด 

มีภาษีที่ต้องจ่าย 100 บาท แต่ปรากฏว่าคุณไม่ได้ยื่นแบบ และถูกตรวจสอบย้อนหลังเมื่อผ่านไปแล้ว 5 – 6 ปี 

คุณอาจต้องเสียภาษี เบี้ยปรับ เงินเพิ่มรวมกันแล้วเป็นเงินถึง 400 บาท!!! 

กำไรที่ได้มาก็คงไม่เหลืออะไร


ระบบจัดเก็บภาษี การตรวจสอบและบทลงโทษของกรมสรรพากร อาจทำให้เกิดความกลัวหรือกังวลเรื่องภาษี แต่ความกลัวมักเกิดจากความไม่รู้ เมื่อรู้แล้วก็จะไม่กลัว เรื่องภาษีก็เช่นเดียวกัน ภาษีเป็นสิ่งที่ต้องเสียกันทุกคน ทุกประเทศทั่วโลก และโดยความเป็นจริงแล้ว ภาษีไม่น่ากลัวอย่างที่คิด เนื่องจากรูปแบบของการเสียภาษีของทุกธุรกิจ สามารถออกแบบให้เหมาะสมได้ 

สามารถวางแผนบริหารจัดการให้เสียภาษีน้อยและถูกกฎหมายได้  


ประเด็นที่สอง

คุณควรรู้ว่าที่คุณเป็น Online Seller บน e-Platform คุณกำลังทำธุรกิจในรูปแบบใด 

เป็นบุคคลธรรมดา เป็นห้างหุ้นส่วนจำกัด  หรือเป็นบริษัทจำกัด หรือเป็นนิติบุคคลอื่น ๆ  

และสินค้าที่ขายที่เป็นรายได้หลัก และรายได้รอง ๆ ลงมาคือสินค้าประเภทใด สินค้ามีที่มาที่ไป 

มีเอกสารรับรองถูกกฎหมายหรือไม่? 


และที่สำคัญยอดขาย หรือรายได้แต่ละปีของคุณ 

มีจำนวนเท่าใด 

มีต้นทุน ค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง 

มีพนักงาน หรือบุคคลอื่น

ที่ทำงานด้วยกันในธุรกิจไหม

มีความรู้ด้านภาษีและบัญชีบ้างหรือไม่? 


ข้อมูลต่าง ๆ เหล่านี้ 

ล้วนมีความสำคัญต่อผู้ให้คำปรึกษา หรือผู้เชี่ยวชาญที่จะเข้ามาช่วยออกแบบธุรกิจของคุณให้เหมาะสม นำข้อมูลมาใช้ในการวางแผนการเสียภาษี บัญชีและแผนธุรกิจ ต่อไป


ขอบคุณครับ

04.02.2024

#TickMahaesak

ให้เราดูแลคุณสนใจติดต่อตัวแทน

พิเชษฐ สุดแก้ว

เบอร์ติดต่อ