ตัวแทนประกันชีวิต บทบาท ความสำคัญ และคุณสมบัติ 1,069 views 3 shares 0 like
ตัวแทนประกันชีวิต
ตัวแทนประกันชีวิต คือ
บุคคลที่ทำหน้าที่เป็นตัวกลาง ระหว่างบริษัทประกันชีวิตและลูกค้า มีหน้าที่ให้คำปรึกษา แนะนำผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต, และช่วยในการจัดทำกรมธรรม์ ให้เหมาะสมกับความต้องการของลูกค้า โดยการทำงานของตัวแทนประกันชีวิต มุ่งเน้นให้ความรู้เกี่ยวกับประกันชีวิต ผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่เกี่ยวข้อง และสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ลูกค้าจะได้รับจากการซื้อกรมธรรม์
ตัวแทนประกันชีวิต ยังมีหน้าที่ช่วยลูกค้าในการเตรียมเอกสาร และการยื่นคำร้องต่างๆ ที่เกี่ยวกับประกัน เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ทำให้ต้องใช้ประกัน เช่น การเสียชีวิต การเจ็บป่วย หรือการทุพพลภาพ
สรุปแล้ว *ตัวแทนประกันชีวิต จะช่วยลูกค้าเลือกแผนประกันที่เหมาะสมกับสถานการณ์และความต้องการของลูกค้า รวมถึงให้การดูแลและบริการหลังการขายด้วย
บทบาทหน้าที่ ของตัวแทนประกันชีวิต
บทบาทและหน้าที่ของตัวแทนประกันชีวิต, มีหลายประการ โดยครอบคลุมตั้งแต่การให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกัน ไปจนถึงการดูแลและบริการหลังการขาย ดังนี้:
ให้คำปรึกษาและแนะนำผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต
ตัวแทนประกันชีวิตมีหน้าที่ให้คำแนะนำเกี่ยวกับแผนประกันชีวิตที่เหมาะสมกับความต้องการและสภาพการเงินของลูกค้า ทั้งยังอธิบายรายละเอียดของกรมธรรม์ สิทธิประโยชน์ต่างๆ และความคุ้มครองที่จะได้รับวิเคราะห์ความต้องการทางการเงิน
ตัวแทนต้องสอบถามข้อมูลเกี่ยวกับเป้าหมายทางการเงิน สถานการณ์ครอบครัว การลงทุน และความเสี่ยงต่างๆ เพื่อออกแบบแผนประกันที่สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้าจัดเตรียมและส่งเอกสารการสมัคร
ตัวแทนช่วยลูกค้าในการจัดเตรียมเอกสารที่จำเป็นในการสมัครประกันชีวิต และดำเนินการยื่นคำขอกรมธรรม์ไปยังบริษัทประกันติดตามผลการพิจารณากรมธรรม์
เมื่อลูกค้าสมัครประกัน ตัวแทนต้องติดตามผลการพิจารณาจากบริษัทประกันชีวิต และแจ้งสถานะของคำขอให้ลูกค้าทราบให้บริการหลังการขาย
ตัวแทนต้องให้คำแนะนำและดูแลลูกค้าหลังจากที่ได้ทำการซื้อกรมธรรม์, เช่น การแจ้งเตือนเรื่องการชำระเบี้ยประกัน การเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว หรือการให้ความช่วยเหลือในการเรียกร้องสิทธิ์ตามกรมธรรม์ให้คำปรึกษาเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ต้องใช้ประกัน
เมื่อเกิดเหตุการณ์ที่จำเป็นต้องใช้สิทธิประกันชีวิต ตัวแทนจะเป็นผู้ช่วยลูกค้าในการเตรียมเอกสารและยื่นคำร้อง เช่น การเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน การชดเชยกรณีเสียชีวิต หรือทุพพลภาพสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืนกับลูกค้า
ตัวแทนต้องรักษาความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้าโดยการให้บริการที่ดีและจริงใจ รวมถึงการติดตามผลการบริการเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกมั่นใจในบริษัทประกัน
ตัวแทนประกันชีวิต, มีบทบาทสำคัญในการช่วยให้ลูกค้าเข้าใจถึงความจำเป็นของการประกันชีวิต และเลือกแผนประกันที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ดีที่สุด
คุณสมบัติ ผู้สมัคร ตัวแทนประกันชีวิต
การสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตต้องการคุณสมบัติหลายประการเพื่อให้ผู้สมัครสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับการยอมรับจากทั้งลูกค้าและบริษัทประกัน คุณสมบัติที่สำคัญของ ผู้สมัครตัวแทนประกันชีวิต, มีดังนี้:
อายุ
ผู้สมัครต้องมีอายุอย่างน้อย 20 ปีขึ้นไป ซึ่งเป็นอายุขั้นต่ำตามกฎหมายการศึกษา
- ต้องจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่าขึ้นไป (ปวช.)
- หากมีประสบการณ์หรือการศึกษาด้านการเงิน การบริหาร หรือการตลาด จะเป็นประโยชน์ในการทำงาน
การสอบผ่านใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต
ผู้สมัครต้องสอบผ่านการทดสอบความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับประกันชีวิตและได้รับใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิตจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อให้สามารถทำงานในฐานะตัวแทนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายทักษะการสื่อสารและมนุษยสัมพันธ์ดี
ตัวแทนประกันชีวิตต้องมีความสามารถในการสื่อสารกับลูกค้าได้อย่างชัดเจน เข้าใจง่าย และสร้างความน่าเชื่อถือ รวมถึงมีทักษะในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในการทำงานกับผู้อื่นมีความรับผิดชอบสูง
เนื่องจากตัวแทนประกันชีวิตเป็นอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการให้คำแนะนำเรื่องการเงินและการวางแผนชีวิต ความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบเป็นสิ่งสำคัญมากในการทำงานทักษะการแก้ปัญหา
ต้องสามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างเหมาะสม เช่น ปัญหาเกี่ยวกับการเลือกผลิตภัณฑ์ประกัน หรือการเคลมค่าสินไหมทดแทนทักษะการขายและการเจรจาต่อรอง
เนื่องจากตัวแทนประกันชีวิตมีบทบาทในการแนะนำผลิตภัณฑ์และปิดการขาย ทักษะการเจรจาต่อรองและการโน้มน้าวใจจึงเป็นทักษะที่จำเป็นมีความรู้พื้นฐานด้านการเงินและการประกัน
ผู้สมัครควรมีความเข้าใจในเรื่องของการเงิน การลงทุน และการบริหารความเสี่ยง เพื่อให้สามารถให้คำแนะนำที่ถูกต้องและเหมาะสมกับลูกค้าได้มีความมุ่งมั่นและอดทน
การทำงานเป็นตัวแทนประกันชีวิตต้องใช้ความพยายาม ความอดทน และความมุ่งมั่นในการหาลูกค้าใหม่ๆ รวมถึงการรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเดิม
ผู้สมัครที่มีคุณสมบัติตามนี้จะมีโอกาสที่จะประสบความสำเร็จใน *อาชีพตัวแทนประกันชีวิตและได้รับความเชื่อถือจากลูกค้าและบริษัท
ขั้นตอนผู้สมัคร ตัวแทนประกันชีวิต
การสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิต มีหลายขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตามเพื่อให้ถูกต้องตามกฎหมายและข้อกำหนดของบริษัทประกัน ขั้นตอนการสมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตโดยทั่วไปมีดังนี้:
1. ค้นหาบริษัทประกันที่ต้องการสมัคร
ผู้สมัครควรเลือกบริษัทประกันชีวิตที่ต้องการทำงานด้วย เนื่องจากแต่ละบริษัทอาจมีข้อกำหนดและเงื่อนไขการสมัครที่แตกต่างกัน เช่น การอบรม การสนับสนุน หรือสวัสดิการต่างๆ
2. สมัครเข้ารับการอบรมตัวแทนประกันชีวิต
- หลังจากเลือกบริษัทประกันชีวิตได้แล้ว ผู้สมัครจะต้องสมัครเข้ารับการอบรมเพื่อเตรียมตัวสอบใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต
- บริษัทประกันจะจัดให้มีการอบรมพื้นฐาน *เกี่ยวกับประกันชีวิต กฎหมายที่เกี่ยวข้อง และขั้นตอนการทำงานของตัวแทนประกัน
3. สอบใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต
- ผู้สมัครต้องสอบผ่านการทดสอบความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับประกันชีวิตและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจประกันภัย ซึ่งจัดโดย สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
- หากสอบผ่านจะได้รับ ใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต ซึ่งเป็นเอกสารที่อนุญาตให้สามารถทำงานเป็นตัวแทนประกันชีวิตได้ตามกฎหมาย
4. สมัครเป็นตัวแทนประกันชีวิตกับบริษัทประกัน
- เมื่อสอบผ่านและได้รับใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิตแล้ว ผู้สมัครจะต้องยื่นเอกสารการสมัครและใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิตให้กับบริษัทประกันที่ตนต้องการร่วมงานด้วย
- บริษัทประกันจะทำการตรวจสอบข้อมูลและประวัติของผู้สมัคร และอนุมัติการเป็นตัวแทนประกันชีวิตของบริษัทนั้น
5. รับการฝึกอบรมเพิ่มเติม (ถ้ามี)
- หลังจากสมัครเป็นตัวแทนเรียบร้อยแล้ว บางบริษัทอาจจัดการฝึกอบรมเพิ่มเติมในเรื่องของผลิตภัณฑ์ การขาย การตลาด และวิธีการดูแลลูกค้า เพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ให้กับตัวแทน
6. เริ่มต้นทำงานเป็นตัวแทนประกันชีวิต
- เมื่อผ่านการอบรมและได้รับการรับรองจากบริษัทแล้ว ผู้สมัครจะสามารถเริ่มทำงานในฐานะตัวแทนประกันชีวิตได้ โดยมีหน้าที่แนะนำและขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตให้กับลูกค้า รวมถึงดูแลลูกค้าหลังการขายตามที่กล่าวมาในหน้าที่ของตัวแทนประกันชีวิต
7. ต่ออายุใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต
ใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิตมีอายุ 2 ปี เมื่อครบกำหนดผู้แทนต้องต่ออายุใบอนุญาต โดยจะต้องผ่านการอบรมและสอบเพื่อประเมินความรู้ความสามารถใหม่ตามข้อกำหนดของ คปภ.
เอกสารที่ใช้ในการสมัครตัวแทนประกันชีวิต
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- วุฒิการศึกษาขั้นต่ำระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า
- รูปถ่ายตามขนาดที่บริษัทกำหนด
- ใบรับรองการสอบผ่านและใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต
การเป็นตัวแทนประกันชีวิตนั้นต้องการทั้งความรู้และความมุ่งมั่น เนื่องจากเป็นอาชีพที่ต้องใช้ทักษะในการขายและการบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า
ข้อมูลเพิ่มเติม
ความแตกต่าง ระหว่าง ตัวแทนประกันชีวิต กับ นายหน้าประกันชีวิต
ตัวแทนประกันชีวิต และ นายหน้าประกันชีวิต ต่างมีบทบาทในการขายประกันชีวิต แต่มีความแตกต่างกันอย่างชัดเจนในเรื่องของบทบาท ขอบเขตการทำงาน และความสัมพันธ์กับบริษัทประกัน โดยความแตกต่างหลักๆ มีดังนี้:
1. ตัวแทนประกันชีวิต (Life Insurance Agent)
- ความสัมพันธ์กับบริษัทประกัน:
ตัวแทนประกันชีวิตเป็นผู้ที่ทำงาน โดยตรง ให้กับบริษัทประกันชีวิตใดบริษัทหนึ่งเท่านั้น เขามีความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการกับบริษัทประกันชีวิตที่ตนสังกัด และมีหน้าที่ในการเสนอขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทนั้นๆ เพียงอย่างเดียว ไม่สามารถขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่นได้ - หน้าที่และความรับผิดชอบ:
ตัวแทนประกันมีหน้าที่ให้คำปรึกษาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ตนเป็นตัวแทน จำหน่ายผลิตภัณฑ์และช่วยลูกค้าในการจัดทำกรมธรรม์ รวมถึงการดูแลลูกค้าหลังการขาย - การอบรมและการได้รับใบอนุญาต:
ตัวแทนประกันชีวิตต้องสอบผ่านและได้รับ ใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ซึ่งใบอนุญาตนี้อนุญาตให้เขาขายประกันของบริษัทประกันที่เป็นนายจ้างเท่านั้น - ข้อจำกัดในการขาย:
ตัวแทนไม่สามารถเสนอขายผลิตภัณฑ์ของบริษัทอื่นๆ ที่เขาไม่ได้สังกัดอยู่ จึงมีข้อจำกัดในการเลือกแผนประกันให้ลูกค้าตามผลิตภัณฑ์ที่บริษัทของเขามีเท่านั้น
2. นายหน้าประกันชีวิต (Life Insurance Broker)
- ความสัมพันธ์กับบริษัทประกัน:
นายหน้าประกันชีวิตทำหน้าที่เป็นตัวกลางอิสระ ไม่ได้ขึ้นตรง กับบริษัทประกันชีวิตใดบริษัทหนึ่งโดยเฉพาะ เขาสามารถทำงานกับบริษัทประกันหลายแห่งได้ จึงมีอิสระในการเสนอขายผลิตภัณฑ์จากหลากหลายบริษัท - หน้าที่และความรับผิดชอบ:
นายหน้ามีหน้าที่หลักในการให้คำปรึกษาที่เป็นกลางและอิสระแก่ลูกค้า โดยพิจารณาจากความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก นายหน้าสามารถแนะนำผลิตภัณฑ์จากหลายบริษัทเพื่อให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากที่สุด และไม่ยึดติดกับบริษัทใดบริษัทหนึ่ง - การอบรมและการได้รับใบอนุญาต:
นายหน้าประกันชีวิตต้องสอบผ่านและได้รับ ใบอนุญาตนายหน้าประกันชีวิต จากสำนักงาน คปภ. เช่นเดียวกัน แต่ใบอนุญาตนี้อนุญาตให้นายหน้าสามารถขายประกันจากหลายบริษัทได้ - ความยืดหยุ่นในการขาย:
เนื่องจากนายหน้ามีอิสระในการเลือกผลิตภัณฑ์จากหลายบริษัท นายหน้าจึงสามารถเสนอขายแผนประกันที่เหมาะสมที่สุดให้กับลูกค้าจากหลายตัวเลือก ทำให้ลูกค้ามีทางเลือกมากขึ้นในการตัดสินใจ
สรุปความแตกต่างหลัก
ความสัมพันธ์กับบริษัทประกัน:
- ตัวแทนประกันชีวิตทำงานให้กับบริษัทประกันชีวิตใดบริษัทหนึ่งโดยตรง
- นายหน้าประกันชีวิตทำงานอย่างอิสระและสามารถขายประกันให้กับหลายบริษัทได้
การให้คำปรึกษา:
- ตัวแทนประกันชีวิตจะให้คำแนะนำเฉพาะผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่เขาสังกัด
- นายหน้าประกันชีวิตให้คำแนะนำจากผลิตภัณฑ์หลายบริษัทเพื่อให้เหมาะสมกับลูกค้าที่สุด
ความยืดหยุ่น:
- ตัวแทนประกันชีวิตมีข้อจำกัดในการขายเฉพาะผลิตภัณฑ์ของบริษัทที่ตัวเองสังกัด
- นายหน้าประกันชีวิตสามารถเสนอขายผลิตภัณฑ์จากหลายบริษัท ทำให้มีความยืดหยุ่นมากกว่า
ดังนั้น หากลูกค้าต้องการคำแนะนำแบบเฉพาะเจาะจงจากบริษัทประกันที่สนใจ ตัวแทนอาจเหมาะสม แต่ถ้าลูกค้าต้องการเปรียบเทียบข้อเสนอจากหลายบริษัท นายหน้าจะสามารถช่วยลูกค้าได้มากกว่าในแง่ของความหลากหลายของทางเลือก
การสมัครเป็น ตัวแทนของไทยประกันชีวิต เป็นขั้นตอนที่สามารถเปิดประตู สู่โอกาสทางอาชีพ ที่มั่นคงและมีศักยภาพ ในการสร้างรายได้ที่ดี ในการเริ่มต้น คุณควรติดต่อ บริษัท ไทยประกันชีวิต โดยตรงผ่านทางเว็บไซต์ ( www.smartagentgroup.com ) หรือ ทางโทรศัพท์ (092-662-1554). เพื่อสอบถามข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับการสมัคร ตัวแทนควรมีคุณสมบัติที่เหมาะสมเช่น มีทักษะในการสื่อสารที่ดี มีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต และมีจรรยาบรรณในวิชาชีพ บริษัทอาจจัดการฝึกอบรมเพื่อเสริมทักษะและความรู้ให้กับตัวแทน นอกจากนี้ คุณอาจต้องเตรียมเอกสารที่จำเป็นและผ่านการสัมภาษณ์หรือการทดสอบเพื่อประเมินความเหมาะสมในการเป็นตัวแทน การสมัครเป็นตัวแทนของไทยประกันชีวิตไม่เพียงแต่เป็นการลงทุนในอาชีพของคุณเอง แต่ยังเป็นการช่วยเหลือผู้อื่นในการวางแผนการเงินและความมั่นคงในอนาคตอีกด้วย
![]() | ![]() |