ปี 2567 ผู้ประกันตน ม.33 เตรียมจ่ายประกันสังคมเพิ่ม

หนุ่มสาว วัยทำงานบริษัทเอกชน หรือมนุษย์เงินเดือน ต่างได้รับสิทธิ์หรือเป็นผู้ประกันตน ประกันสังคมตามมาตรา 33 โดยหักจากเงินเดือนทุกเดือน อัตรา 5% สูงสุดที่ 750 บาท และผู้ประกันตนย่อมได้รับสิทธิ์รักษาพยาบาลตามสถานพยาบาลที่เลือกไว้ (เสมือน 750 บาทต่อเดือน เป็นค่าประกัน ซึ่งมีทั้งค่ารักษา ค่าทดแทน ค่าปลงศพ และเงินบำนาญให้อีก) ซึ่งยังมีส่วนที่นายจ้ายสมทบให้อีก อัตรา 5% รัฐฯ อีก 2.75%

ซึ่งจะมีการปรับขึ้นเพดานเงินสมทบเป็นขั้นบันได ตั้งแต่ปี 2567 ผู้ประกันตน ม.33 ต้องจ่ายประกันสังคมเพิ่มจาก 750 เป็น 875-1,150 บาท/เดือน

เดิมเคยกำหนดไว้สูงสุด เพียง 750 บาท ตั้งแต่ปี 2538

ด้วยกฎกระทรวง ฉบับที่ 7 (พ.ศ.2538) ออกตามความในพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 ได้กำหนดค่าจ้างขั้นสูงที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบกองทุนประกันสังคมของผู้ประกันตน มาตรา 33 ไว้ไม่เกิน 15,000 บาท ซึ่งใช้บังคับมาตั้งแต่วันที่ 30 มีนาคม 2538 จนถึงปัจจุบัน

กระทรวงแรงงานจึงขอเสนอร่างกฎหมายปรับขึ้นเพดานเงินสมทบให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันและเป็นไปตามมาตรฐานเพดานค่าจ้างขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ตลอดจนเพื่อดำรงความเพียงพอของสิทธิประโยชน์ที่เป็นเงินทดแทนการขาดรายได้ และเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับกองทุนรองรับรายจ่ายค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้น เพื่อการกระจายรายได้จากผู้มีรายได้มากไปสู่ผู้มีรายได้น้อยภายในระบบประกันสังคม และเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบประกันสังคม

โดยร่างกฎกระทรวงนี้อาจจะบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 เป็นต้นไป
ค่าจ้างที่ใช้เป็นฐานในการคำนวณเงินสมทบผู้ประกันตนมาตรา 33 แต่ละคนให้กำหนดขั้นต่ำ ขั้นสูง ดังต่อไปนี้

(1) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2569 จำนวนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1,650 บาท และไม่เกิน 17,500 บาท

(2) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2570 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2572 จำนวนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1,650 บาท และไม่เกิน 20,000 บาท

(3) ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2573 เป็นต้นไป จำนวนไม่ต่ำกว่าเดือนละ 1,650 บาท และไม่เกิน 23,000 บาท

แสดงว่า ผู้ประกันตนมาตรา 33 บางกรณีจะต้องจ่ายเงินสมทบเพิ่ม แต่ผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 15,000 บาท จะส่งเงินสมทบเท่าเดิมหรือ 750 บาทต่อเดือน

ค่าจ้าง 15,000 บาท
ปัจจุบัน : 750 บาท/เดือน

ปี 2567-2569 : 750 บาท/เดือน
ปี 2570-2572 : 750 บาท/เดือน
ปี 2573 เป็นต้นไป : 750 บาท/เดือน

ค่าจ้าง 17,500 บาท
ปัจจุบัน : 750 บาท/เดือน

ปี 2567-2573 เป็นต้นไป : 875 บาท/เดือน

ค่าจ้าง 20,000 บาท
ปัจจุบัน : 750 บาท/เดือน

ปี 2567-2569 : 875 บาท/เดือน
ปี 2570-2572 : 1,000 บาท/เดือน
ปี 2573 เป็นต้นไป : 1,000 บาท/เดือน

ค่าจ้าง 23,000 บาท
ปัจจุบัน : 750 บาท/เดือน

ปี 2567-2569 : 875 บาท/เดือน
ปี 2570-2572 : 1,000 บาท/เดือน
ปี 2573 เป็นต้นไป : 1,150 บาท/เดือน

นอกจากผู้ประกันตนมาตรา 33 จะจ่ายเงินสมทบสูงเพิ่มขึ้นเท่านั้น ในส่วนของนายจ้างและรัฐบาลยังต้องสมทบเพิ่มด้วยเช่นกัน ตามภาพที่สรุป

สิทธิประโยชน์เพิ่ม หลังปรับขึ้นเพดานเงินสมทบ วัยทำงานจะได้รับแน่นอน

ผู้ประกันตนหรือเราจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนประกันสังคมเพิ่มขึ้นเนื่องจากฐานที่ใช้ในการคำนวณเพื่อรับสิทธิดังกล่าวจะคำนวณจากค่าจ้างที่นำส่งเข้ากองทุนประกันสังคม ดังนี้

(1) เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีเจ็บป่วย 50% ของค่าจ้างที่นำส่งเข้ากองทุน
(2) เงินทดแทนการขาดรายได้กรณีทุพพลภาพ 70% หรือ 30% ของค่าจ้างที่นำส่งเข้ากองทุน
(3) เงินสงเคราะห์การหยุดงานเพื่อการคลอดบุตร 50% ของค่าจ้างที่นำส่งเข้ากองทุน
(4) เงินสงเคราะห์กรณีตาย 50% ของค่าจ้างที่นำส่งเข้ากองทุน
(5) เงินทดแทนการขาดรายได้ในกรณีว่างงาน 50% หรือ 30% ของค่าจ้างที่นำส่งเข้ากองทุน
(6) เงินบำนาญชราภาพ ไม่ต่ำกว่า 20% ของค่าจ้างเฉลี่ย 60 เดือนสุดท้ายที่นำส่งเข้ากองทุน โดยผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบ 15 ปี จะได้รับบำนาญ 20% ของค่าจ้าง ส่วนผู้ประกันตนที่ส่งเงินสมทบมากกว่า 15 ปี จะได้รับบำนาญเพิ่มอีก 1.5% ทุกการส่งเงินสมทบครบ 12 เดือน

สำหรับเงินบำเหน็จชราภาพจะได้รับเพิ่มขึ้นโดยอัตโนมัติ เพราะมีการนำส่งเงินสมทบเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนในกรณีชราภาพเพิ่มขึ้นจากการปรับฐานที่ใช้ในการคำนวณเงินสมทบเช่นกัน ตามภาพที่สรุป

กรณีเจ็บป่วย

ปัจจุบัน : 250 บาท/วัน

ปี 2567-2569 : 292 บาท/วัน
ปี 2570-2572 : 333 บาท/วัน
ปี 2573 เป็นต้นไป : 383 บาท/วัน

ทุพพลภาพรุนแรง

ปัจจุบัน : 7,500 บาท/เดือน

ปี 2567-2569 : 8,750 บาท/เดือน
ปี 2570-2572 : 10,000 บาท/เดือน
ปี 2573 เป็นต้นไป : 11,500 บาท/เดือน

คลอดบุตร

ปัจจุบัน : 22,500 บาท/ครั้ง

ปี 2567-2569 : 26,250 บาท/ครั้ง
ปี 2570-2572 : 30,000 บาท/ครั้ง
ปี 2573 เป็นต้นไป : 34,500 บาท/ครั้ง

เสียชีวิต

ปัจจุบัน : 30,000 บาท

ปี 2567-2569 : 35,000 บาท
ปี 2570-2572 : 40,000 บาท
ปี 2573 เป็นต้นไป : 46,000 บาท

บำนาญ (ส่งเงิน 15 ปี)

ปัจจุบัน : 3,000 บาท/เดือน

ปี 2567-2569 : 3,500 บาท/เดือน
ปี 2570-2572 : 4,000 บาท/เดือน
ปี 2573 เป็นต้นไป : 4,600 บาท/เดือน

บำนาญ (ส่งเงิน 25 ปี)

ปัจจุบัน : 5,250 บาท/เดือน

ปี 2567-2569 : 6,125 บาท/เดือน
ปี 2570-2572 : 7,000 บาท/เดือน
ปี 2573 เป็นต้นไป : 8,050 บาท/เดือน

แม้จะมีการสมทบเพิ่ม วัยทำงานอย่างเราๆ เคยสมทบกันมาตลอดตั้งแต่เริ่มผ่านทดลองงาน หลายคนคงเข้าใจดี
บางคนอาจจะเคยใช้สิทธิ์คลอดบุตร ทำฟัน ค่าทดแทนจากการขาดราได้ เนื่องจากอุบัติเหตุเจ็บป่วย หรือลาออกจากงาน บางคนเคยใช้สิทธิ์ค่ารักษาพยาบาล จนคุ้มค่ามากแล้วก็ตาม หรือบางคนอาจจะบอกว่าไม่เคยได้ใช้สิทธิ์เหล่านี้เลย ทวีเลิฟเองก็เช่นกัน ยังไม่เคยใช้สิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลใดๆ จากประกันสังคมและยังไม่ได้รับบำนาญ นอกจากนำสิทธิ์มาลดหย่อนภาษี (เงินสบทบประกันสังคม ใช้หักลดหย่อนภาษีได้) และยังไม่อยากใช้สิทธิ์อื่นใด อยากเก็บไว้ให้ท่านอื่นใช้ดีกว่า เพราะเรื่องเจ็บป่วยสำหรับทวีเลิฟ ไม่มีคำว่าใช้คุ้มค่า มีแต่คำว่าไม่ร่างกายที่แข็งแรงคือทรัพย์อันมีค่า เป็นต้นทุนที่คุ้มค่าในสร้างทรัพย์ไม่รู้จบ เวลาอนาคตอยากมีประกันสุขภาพส่วนบุคคลแบบไหน ก็ไม่มีโรคเกาะติดตัวด้วยคร้า

ด้วยรักจากใจทั้งดวง
และขอบคุณข้อมูลสนับสนุนประกันสังคม และสำนักข่าว PPTVhd36
รวบรวมสรุปข้อมูลใหม่ ทวีเลิฟเสิร์ฟประกัน
ติดตามสนับสนุนพวกเรา Follow us
Facebook Page : Taveeloveservepragun
IG : TaveeloveServepragun
line : taveelovelove
#ทวีเลิฟเสิร์ฟประกัน

เรื่องอื่นๆ ที่คุณอาจสนใจ แชร์ให้โลกรู้พร้อมกัน

ผู้ได้รับอนุญาต คปภ. แนะนำผลิตภัณฑ์
ประกันสุขภาพ ประกันควบการลงทุน
ออมทรัพย์เพื่อลดหย่อนภาษี
วางแผนเกษียณ กองทุนการศึกษาและมรดก
ผู้ถือใบอนุญาต : 6201011055
ติดต่อสอบถาม ตลอด 1440 นาที
กดโทร 081 844 8563

ประกันสังคม ม.33 ปรับขึ้นเงินสมทบ ตามเพดานค่าจ้าง 29,970 views 96 shares 2 like

ให้เราดูแลคุณสนใจติดต่อตัวแทน

ทวีรัก วิสิทธิกมลโยธิน

ข่าวสารและกิจกรรมอื่น ๆ

Social Media

ติดต่อสอบถาม

ประกันสังคม ม.33 ปรับขึ้นเงินสมทบ ตามเพดานค่าจ้าง
29,970 views 96 shares 2 like