ไทยสู้ยิบตามุ่งเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งอาเซียน
‘ไทย’ สู้ยิบตา มุ่งเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งอาเซียน
รัฐบาลกำลังส่งเสริมให้ไทยกลายเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งอาเซียนและเตรียมผลักดันธุรกิจให้เข้าสู่อุตสาหกรรมอัจฉริยะและอุตสาหกรรมสีเขียว
.
นายสุวิทย์ รัตนจินดา ประธานสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทยกล่าวว่า สมาพันธ์ต้องการให้รัฐบาลใหม่ออกนโยบายในการผลักดันประเทศให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์แห่งอาเซียนอย่างจริงจัง พร้อมระบุว่า ไทยมีความพร้อมในแง่ภูมิศาสตร์และโครงสร้างพื้นฐาน ซึ่งมีสนามบินและถนนที่สามารถเชื่อมกับ สปป. ลาว กัมพูชา และเมียนมาได้ ประกอบกับยังมีเส้นทางรถไฟความเร็วสูงลาว-จีน ที่จะช่วยร่นระยะเวลาการเข้าสู่เอเชียกลางจาก 60 วัน เหลือเพียง 15-16 วันและยังสามารถเชื่อมกับยุโรปได้อีกด้วย
.
นอกจากนี้ รัฐบาลควรมีมาตรการในการส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงจากรถบรรทุกน้ำมันดีเซลเป็นรถ EV และสนับสนุนการลงทุนในระบบคลังสินค้าโรบอตและดิจิทัลเพื่อให้ก้าวทันการเปลี่ยนแปลงในระดับโลก
.
อุตสาหกรรมโลจิสติกส์ไทยในปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 1.2 ล้านล้านบาท ซึ่งใกล้เคียงกับช่วง 2 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี มูลค่าอาจน้อยกว่านั้นเนื่องจากต้นทุนค่าขนส่งลดลง เช่น ต้นทุนค่าคอนเทนเนอร์ลดลงจาก 5,000 ดอลลาร์สหรัฐในช่วงโควิด 19 เหลือ 1,000 ดอลลาร์สหรัฐในปัจจุบัน
.
สำหรับในไทย มีผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ประมาณ 34,000 ราย โดยต้นทุนค่าโลจิสติกส์โดยรวมคิดเป็นประมาณ 14% ของ GDP ซึ่งนับว่าค่อนข้างสูง ไทยจึงจำเป็นต้องลดต้นทุนในส่วนนี้เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ เพราะในประเทศพัฒนาแล้ว ต้นทุนค่าโลจิติกส์โดยทั่วไปจะอยู่ที่ประมาณ 10% ของ GDP หรือน้อยกว่านั้น
#logistics #โลจิสติกส์ #อาเซียน #AECConnect
Credit: AEC Connect