คุ้มครองเงินฝาก ลดเหลือ 1 ล้านบาท
เงินฝากธนาคาร เป็นเพียงส่วนหนึ่งของ “การออม”
ผู้อำนวยการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก แนะนำว่า เงินฝากธนาคาร ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสุดสำหรับการออม ควรแบ่งเงินออม ไปลงทุนในตราสารทุน , ตราสารหนี้ , ทองคำ หรือการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งจังหวะนี้อาจเป็นจังหวะที่มีทางเลือกในการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ ซึ่ง การออมที่ดี คือการแบ่งสัดส่วนนำไปลงทุนได้หลายส่วน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีในอนาคต
ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือเงินฝาก
1. ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือเงินฝาก ที่ได้รับการคุ้มครอง ต้องเป็น “เงินบาท” เท่านั้น
- เงินฝากออมทรัพย์
- เงินฝากประจำ
- บัตรเงินฝาก
- เงินฝากกระแสรายวัน
- ใบรับฝากเงิน
- ออมประกันชีวิต
2. ผลิตภัณฑ์ทางการเงิน หรือเงินฝาก ที่ไม่ได้รับการคุ้มครอง
- เงินฝากประเภทที่เป็นเงินตราต่างประเทศ
- เงินลงทุนในตราสารต่าง ๆ เช่น พันธบัตร , หุ้นกู้ , หน่วยลงทุน (SSF , RMF)
- เงินฝากสหกรณ์
- แคชเชียร์เช็ค , ตั๋วแลกเงิน
- เงินอิเล็กทรอนิกส์ (e-Money)
ตั้งแต่ 11 ส.ค. 64 เป็นต้นไป วงเงินคุ้มครองเงินฝาก ลดเหลือ 1 ล้านบาท
ปัจจุบัน วงเงินคุ้มครองเงินฝากอยู่ที่ 5 ล้านบาท แต่นับจากวันที่ 11 สิงหาคม 2564 เป็นต้นไป วงเงินคุ้มครอง ลดจาก 5 ล้านบาท เหลือ 1 ล้านบาท หมายความว่า เงินฝากในแต่ละแบงก์จะลดการคุ้มครองเหลือเพียง 1 ล้านบาท หรือทุกแบงก์รวมกันคือ 1 ล้านบาท นั่นเอง
(วงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาทต่อ 1 รายผู้ฝาก ต่อ 1 สถาบันการเงิน หากบุคคลคนเดียวกันฝากเงินไว้กับธนาคารหลายแห่ง แต่ละแห่งก็จะได้รับความคุ้มครอง ภายใต้วงเงิน 1 ล้านบาท
หมายเหตุ: วงเงินคุ้มครองเป็นไปตามพระราชกฤษฎีกากำหนดจำนวนเงินฝากที่ได้รับการคุ้มครองเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2563
หน้าที่หลักของสถาบันคุ้มครองเงินฝาก (DPA)
1. คุ้มครองเงินฝากให้แก่ผู้ฝาก จ่ายคืนเงินแก่ผู้ฝากโดยเร็ว เมื่อสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต
2. เก็บเงินจากสถาบันการเงินที่ได้รับความคุ้มครอง เพื่อสะสมไว้เป็น “กองทุนคุ้มครองเงินฝาก” สำหรับใช้ในการจ่ายคืนเงินให้แก่ผู้ฝากตามวงเงิน และระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด หากสถาบันการเงินใดถูกเพิกถอนใบอนุญาต
2.1 ชำระบัญชีสถาบันการเงินที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต และนำเงินที่ได้รับจากการชำระบัญชี จ่ายคืนแก่ผู้ฝาก กรณีที่มีเงินฝากเกินวงเงินที่กำหนด
2.2 ร่วมมือกับภาครัฐ และหน่วยงานต่าง ๆ ในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินของสถาบันการเงิน
ถ้าสถาบันการเงินถูกเพิกถอนใบอนุญาต กระบวนการช่วยเหลือ “ผู้ฝากเงิน” เป็นอย่างไร ?
1. ผู้ฝากเงินไปเปิดบัญชีใหม่กับธนาคารอื่น ด้วยการอ้างอิงหมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน และผูก
PromptPay ไว้(วงเงินคุ้มครอง 1 ล้านบาท)
2. สถาบันคุ้มครองจะคืนเงินฝาก ผ่าน PromptPay ให้ภายใน 30 วัน แต่ถ้าไม่มี PromptPay ก็จะจัดส่งเช็คทางไปรษณีย์
3. ต้องจ่ายเงินค่าคุ้มครองเงินฝากหรือไม่ ?
ไม่ต้อง เพราะ การจ่ายคืนเงินฝากเป็นมาตรการของรัฐ เพื่อช่วยเงินผู้ฝากเงินทั่วไปโดยเฉพาะผู้ฝากเงินรายย่อย ซึ่งการคุ้มครองนี้ เงินฝากของประชาชนจะได้รับการคุ้มครองโดยอัตโนมัติอยู่แล้วทันทีที่นำเงินไปฝากกับสถาบันการเงินที่อยู่ภายใต้การคุ้มครอง และในกรณีที่สถาบันการเงินล้มหรือถูกปิดกิจการผู้ฝากก็ให้ดำเนินการรับเงินตามข้อ 1