Fructose Syrup


Fructose syrup หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า high-fructose corn syrup (HFCS) เป็นสารให้ความหวานที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายในอาหารและเครื่องดื่มหลายประเภท แต่การบริโภค HFCS มากเกินไปอาจส่งผลต่อสุขภาพของเราได้ ในบทความนี้ เราจะสำรวจข้อดี ข้อเสียของการบริโภค HFCS และความสำคัญของการทำประกันสุขภาพเพื่อปกป้องความเสี่ยงที่เราไม่อาจหลีกเลี่ยงอาหารต่างๆ


Fructose Syrup ทำมาจากอะไร?

Fructose syrup หรือ high-fructose corn syrup (HFCS) เป็นสารให้ความหวานที่ผลิตจากข้าวโพด โดยผ่านกระบวนการเปลี่ยนแป้งในข้าวโพดให้กลายเป็นน้ำตาล HFCS มีองค์ประกอบหลักเป็น fructose และ glucose ซึ่งเป็นน้ำตาลชนิดเดียวกับที่พบในผลไม้ แต่ใน HFCS สัดส่วนของน้ำตาล fructose จะสูงกว่า


กระบวนการผลิต HFCS :

1. การเปลี่ยนแป้งเป็นน้ำตาล : เริ่มจากการสกัดแป้งจากข้าวโพดแล้วผ่านกระบวนการไฮโดรไลซิสเพื่อเปลี่ยนแป้งให้กลายเป็นน้ำตาลกลูโคส

2. การเปลี่ยนกลูโคสเป็นฟรุกโตส : หลังจากนั้นจะใช้เอนไซม์กลูโคสไอโซเมอเรส (glucose isomerase) เพื่อเปลี่ยนกลูโคสส่วนหนึ่งให้กลายเป็นฟรุกโตส ทำให้ได้ HFCS ที่มีสัดส่วนของฟรุกโตสที่สูงกว่า


HFCS กับน้ำตาลฟรุกโตสในผลไม้ :

ถึงแม้ว่าฟรุกโตสใน HFCS จะเป็นน้ำตาลชนิดเดียวกับที่พบในผลไม้ แต่ HFCS มีการผลิตและกระบวนการที่แตกต่างจากฟรุกโตสธรรมชาติที่พบในผลไม้ นอกจากนี้ ผลไม้ยังมีสารอาหารอื่นๆ เช่น วิตามิน แร่ธาตุ และใยอาหาร ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ


ข้อดีของการบริโภค Fructose Syrup


1. เพิ่มรสชาติและความหวาน : HFCS มีความหวานที่สูงกว่า sucrose (น้ำตาลทราย) ทำให้อาหารและเครื่องดื่มมีรสชาติที่ดีขึ้น

2. ราคาถูก : HFCS มีราคาถูกกว่าน้ำตาลทราย ทำให้ผู้ผลิตสามารถลดต้นทุนการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ในราคาที่ถูกลง

3. ความสามารถในการเก็บรักษา : HFCS มีคุณสมบัติในการเก็บรักษาอาหารให้นานขึ้น ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ผลิตอาหาร


ข้อเสียของการบริโภค Fructose Syrup


1. เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคอ้วนและเบาหวาน : การบริโภค HFCS มากเกินไปสามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นโรคอ้วน และเบาหวานประเภท 2 ได้ เนื่องจาก HFCS มีผลต่อการเผาผลาญน้ำตาลในร่างกาย

2. ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ : HFCS สามารถเพิ่มระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด

3. ผลกระทบต่อการทำงานของตับ : การบริโภค HFCS มากเกินไปสามารถส่งผลกระทบต่อการทำงานของตับ ทำให้เกิดการสะสมของไขมันในตับ ซึ่งอาจนำไปสู่โรคไขมันพอกตับ (NAFLD)


การทำประกันสุขภาพและการคุ้มครองสุขภาพ


การทำประกันสุขภาพเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันความเสี่ยงทางการเงินจากปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นจากการบริโภค HFCS มากเกินไป ประกันสุขภาพสามารถคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล เช่น การตรวจวินิจฉัย การรักษา และการติดตามผล รวมถึงการป้องกันโรคต่างๆ ที่เกิดจากการบริโภคอาหารที่ไม่เหมาะสม


1. คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพ : การทำประกันสุขภาพสามารถช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งเป็นการป้องกันโรคและติดตามสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ

2. คุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษา : หากเกิดปัญหาสุขภาพจากการบริโภค HFCS เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ หรือโรคไขมันพอกตับ ประกันสุขภาพสามารถช่วยคุ้มครองค่าใช้จ่ายในการรักษาและฟื้นฟูสุขภาพ

3. การป้องกันและการดูแลสุขภาพ : ประกันสุขภาพสามารถช่วยให้ผู้เอาประกันสามารถเข้าถึงบริการทางการแพทย์ที่ดี และสามารถรับคำแนะนำในการดูแลสุขภาพจากผู้เชี่ยวชาญได้


สรุป

การบริโภค Fructose Syrup มีทั้งข้อดีและข้อเสีย การตระหนักถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นและการปรับพฤติกรรมการบริโภคให้เหมาะสมสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อสุขภาพได้ นอกจากนี้ การทำประกันสุขภาพยังเป็นวิธีที่ดีในการป้องกันและคุ้มครองสุขภาพในระยะยาว เพื่อให้ผู้เอาประกันสามารถรับการดูแลและรักษาที่เหมาะสมเมื่อเกิดปัญหาสุขภาพ


ขอแนะนำประกันสุขภาพเหมาจ่าย

Health fit DD


Health fit Ultra


แหล่งอ้างอิง :

1. Bray, G. A., Nielsen, S. J., & Popkin, B. M. (2004). Consumption of high-fructose corn syrup in beverages may play a role in the epidemic of obesity. The American Journal of Clinical Nutrition, 79(4), 537-543.

2. Stanhope, K. L., & Havel, P. J. (2008). Endocrine and metabolic effects of consuming beverages sweetened with fructose, glucose, sucrose, or high-fructose corn syrup. The American Journal of Clinical Nutrition, 88(6), 1733S-1737S.

3. Basaranoglu, M., Basaranoglu, G., & Sabuncu, T. (2013). Fructose as a key player in the development of fatty liver disease. World Journal of Gastroenterology, 19(8), 1166-1172.

ให้เราดูแลคุณสนใจติดต่อตัวแทน

นลิน นครวิลัย

เบอร์ติดต่อ